2564 ความชุกของโรคอ้วนและน้ำหนักเกินในเด็ก อายุน้อยกว่า 5 ปี อยู่ที่ 9. 07% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 5. 7% "โรคอ้วน (Obesity) เป็น 1 ในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ชักนำไปสู่โรคอื่นๆ มากมาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไขมันพอกตับ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคข้ออักเสบ โรคภูมิแพ้โรคภูมิต้านทานต่ำ โรคนอนไม่ดี โรคสมองเสื่อม เป็นต้น" หมอแอมป์-นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ นายกสมาคมแพทย์ฟื้นฟูสุขภาพและส่งเสริมการศึกษาโรคอ้วน กรุงเทพ (BARSO) และประธานคณะผู้บริหารบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก กล่าวไว้การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยิ่งทำให้อันตรายของโรคอ้วนเด่นชัดขึ้น เพราะตัวเลขของผู้เสียชีวิตจาก COVID-19ส่วนใหญ่มาจากประเทศที่มีอัตราส่วนผู้ป่วยโรคอ้วนสูง โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกแสดงให้เห็นว่า โรคอ้วนเพิ่มโอกาสการเสียชีวิตและเจ็บป่วยรุนแรงจาก COVID-19 มากถึง 7 เท่า เมื่อเทียบกับคนสุขภาพแข็งแรง" นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ โรคอ้วนคืออะไร การวินิจฉัยโรคอ้วนวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การวัดรอบเอวก็พอได้ รอบเอวผู้หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้ว ผู้ชายไม่ควรเกิน36 นิ้ว หรือใช้การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย(Body Mass Index; BMI) มาเป็นตัวบอกได้ โดยคำนวณได้จากการนำน้ำหนัก(กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เมตร)ยกกำลังสอง ซึ่งถ้าผลที่ได้ มีค่าอยู่ในช่วง 25-29.
สาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายสามารถผลิตอินซูลินได้น้อย มักจะเกิดปัญหากับตับอ่อน ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของการผลิตฮอร์โมนอินซูลินโดยตรง โดยอาจจะเกิดจากการอักเสบ หรือเกิดจากการติดเชื้อ ขณะเดียวกันหากเป็นผู้ป่วยภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ก็มีโอกาสที่จะมีการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินในปริมาณที่น้อยกว่าปกติได้เช่นกัน เมื่อใดที่ร่างกายจำเป็นต้องรับฮอร์โมนอินซูลินจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย?
ในอาหาร 1 จาน 50% เป็นผักหลากหลายชนิด อีก 25% เป็นโปรตีนที่ดี เช่น ปลา ถั่วและธัญพืช ส่วนที่เหลืออีก 25% เป็นข้าวแป้งไม่ขัดสี อย่างเช่นข้าวกล้อง 2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัว เช่น มาการีน ชีส เนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อแปรรูป ชานมไข่มุก กาแฟเย็น ขนมเค้ก พาย คุกกี้ อาหารฟาสต์ฟู้ด เป็นต้น 3. บริโภคน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง โดยเฉพาะที่มี HFCS สูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เป็นต้น 4. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน, ประมาณ 5 วันต่อสัปดาห์ 6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยควรนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม และนอนให้ได้ 8-9 ชั่วโมงทุกวัน
5 เท่า เพราะ 80% ของการเกิดมะเร็งเต้านมพบว่า สัมพันธ์กับการกระตุ้นจากฮอร์โมนเอสโตรเจน ขณะที่ความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะเพิ่มขึ้น 2-4 เท่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงน้ำหนักปกติ "บ่อยครั้งที่พบว่า คนไข้ที่เป็นโรคอ้วนจะมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนไม่ปกติตั้งแต่ก่อนประจำเดือนจะหมด หลายรายมองข้าม เรื่องเหล่านี้ไป ไม่ได้ดูแลควบคุม และพบว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย การสะสมของไขมันที่มีมากซึ่งเป็นอีกแหล่งที่ให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งจะกระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาตัวผิดปกติ และพัฒนาเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก โดยเริ่มจากอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด" พญ. ธิศรา กล่าว ปัญหาของการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผล ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่สามารถค้นพบสาเหตุที่แฝงอยู่ในความอ้วนนั้น ซึ่งการวินิจฉัยและรักษาโดยศาสตร์การแพทย์เฉพาะเจาะจง (Precision medicine) จะทำให้ค้นพบปัญหา และวางแผนการรักษาได้ตรงจุดอย่างได้ผล ได้แก่ การตรวจไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วย DEXA scan การตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ การตรวจยีนที่สามารถจะบอกถึงรูปแบบอาหารที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพและการควบคุมน้ำหนัก การเผาผลาญ ความไวต่ออาหาร หรือความสามารถในการขจัดสารพิษ แนวโน้มการขาดวิตามิน รวมถึงการออกกำลังกายที่เหมาะสมและส่งผลให้ควบคุมน้ำหนักได้" พญ.
ประชาสัมพันธ์ 16 มิ. ย. 2558 เวลา 19:06 น. 11. 1k ทางการแพทย์ได้มีการจำแนกคนอ้วนที่เกิดจากฮอร์โมนผิดปกติ และมาจากเรื่องของอาหารการกิน และขาดการออกกำลังกาย หนุ่มๆ สาวๆ หลายคนตอนนี้ อาจกำลังทุกข์ใจกับปัญหาน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และกำลังทำทุกวิถีทางที่จะทำให้น้ำหนักนั้นลดลง ทั้งการควบคุมอาหาร การออกกำลังที่หักโหม เพื่อที่น้ำหนักจะได้ลดลงมาอย่างรวดเร็ว แต่ผลที่ได้กลับมายิ่งทำน้ำหนักไม่ลดลง นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังมีปัญหาเรื่องฮอร์โมน ที่ส่งผลให้คุณนั้น "อ้วน" น. พ. สมบูรณ์ รุ่งพรชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมน และควบคุมน้ำหนัก แห่ง เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ จะมาไขข้อข้องใจว่าฮอร์โมนส่งผลกับร่างกายอย่างไร ถึงทำให้อ้วน น.
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมะเร็งมดลูกเป็นโรงมะเร็งในผู้หญิงที่พบมากเป็นอันดับ 3 ในปัจจุบัน รองจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก มีข้อมูลพบว่าผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือนจะมีโอกาสเป็นมะเร็งชนิดนี้ได้สูงขึ้น แต่บ่อยครั้งที่พบในผู้หญิงอายุ 30-45 ปี ที่มีความผิดปกติของฮอร์โมนและมีน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน พญ.
ยาง ย อย Coupling, 2024