2529 ได้เกิดฝนตกหนักมากและตกติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 8 - 10 พฤษภาคม 2529 เนื่องจากได้มีพายุจรนำฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีฝนตก 254 มม. ที่กรมอุตุนิยมวิทยา(บางกะปิ) และ 273 มม. ที่เขตราษฎร์บูรณะ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในบางพื้นที่ Kraipit PHANVUT / AFP พ. 2533 ในเดือนตุลาคม พายุโซนร้อน " อีรา " และ" โลล่า " พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมที่กรุงเทพฯ พ. 2537 เกิดพายุฝนฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ และปริมณฑลเมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2537 วัดปริมาณฝน ได้มากที่สุดในประวัติการณ์ เรียกได้ว่าเป็น " ฝนพันปี " ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่วกรุงเทพฯ น้ำท่วม พ. 2538 มีฝนตกในภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากพายุหลายลูกพัดผ่าน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา และมีสภาพฝนตกหนักในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม เนื่องจากพายุ " โอลิส " ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูง โดยวัดที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2538 มีค่าระดับสูงถึง 2. 27 เมตร (รทก. ) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์(เท่าน้ำท่วมปี พ. 2485) ทำให้น้ำล้นคันป้องกันน้ำท่วมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำในระดับสูงถึง 50 - 100 ซ.
เชียงใหม่ 1 คน เนื่องจากมีอายุมากล้มศรีษะ กระแทกพื้น มีความเสียหายเล็กน้อยที่บริเวณใกล้ศูนย์กลาง
ที่สูงเกือบเป็นประวัติการณ์ ภัยพิบัติดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประเทศในยุโรปหลายแห่ง เช่น กรีซ ที่มีรายงานว่าไฟป่าลุกลามถึงชานกรุงเอเธนส์ จนส่งผลให้ต้องมีการอพยพประชาชนหลายพันคน ขณะที่หน่วยงานบริหารท้องถิ่นของจังหวัดวาร์ในฝรั่งเศส ก็ต้องสั่งอพยพประชาชนหลายพันคนออกจากพื้นที่เช่นกัน หลังเกิดเหตุไฟป่าครอบคลุมพื้นที่เกือบ 37, 500 ไร่ อุทกภัยในเยอรมนีส่งผลดับเกือบ 200 ราย เมื่อวันที่ 15 ก.
ม แม่ค้าขายอาหารกลางแยกน้ำท่วม 17 ก. ย. 38 จว. อยุธยา / STR / AFP พ. 2539 มีน้ำท่วมขังตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนธันวาคม 2539 ตั้งแต่หลังปี 2539 เป็นต้นมา ยังไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงในเขตกรุงเทพมหานคร มีเพียงน้ำท่วมขังในเวลาไม่นานก็ระบายออกได้สู่ภาวะปกติ มหาอุทกภัย พ. 2554 อุทกภัยในประเทศไทย พ. 2554 หรือที่นิยมเรียกกันว่า มหาอุทกภัย เป็นอุทกภัยรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณลุ่ม แม่น้ำเจ้าพระยา และลุ่ม แม่น้ำโขง เริ่มตั้งแต่ปลาย เดือนกรกฎาคม และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ. 2555 มีราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 12. 8 ล้านคน ธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1. 44 ล้านล้านบาท อุทกภัยดังกล่าวทำให้พื้นดินกว่า 150 ล้านไร่ (6 ล้านเฮกตาร์) ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทั้งพื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมใน 65 จังหวัด 684 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4, 086, 138 ครัวเรือน 13, 595, 192 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 2, 329 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 96, 833 หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 11. 20 ล้านไร่ ถนน 13, 961 สาย ท่อระบายน้ำ 777 แห่ง ฝาย 982 แห่ง ทำนบ 142 แห่ง สะพาน /คอสะพาน 724 แห่ง บ่อปลา / บ่อกุ้ง / หอย 231, 919 ไร่ ปศุสัตว์ 13.
ยาง ย อย Coupling, 2024